พฤษภา…วิปโยค

อีกไม่กี่วันแล้ว จะสิ้นเดือนพฤษภาคม เดือนที่มีแต่เรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น และก็เป็นเดือนที่เริ่มต้นสำหรับเรื่องไม่ค่อยจะดีนักในสังคมไทย

เริ่มต้นเดือนก็มีพายุไซโคลน “นาร์กีส” ถล่มประเทศพม่า เพื่อนบ้านของเรา ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นไม่นาน แผ่นดินไหวก็ถล่มที่ประเทศจีนอีก ภาพต่าง ๆ ที่เห็นตามโทรทัศน์ เห็นแล้วหดหู่ ภาพคนพม่าตายลอยน้ำ การแจกอาหาร แล้วมีคนวิ่งตาม คนให้ก็โยนอาหารให้ รถแจกอาหารเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ ไม่นึกเลยว่า ประเทศที่เก่งเคยรบชนะประเทศไทย จะตกต่ำถึงเพียงนี้

ที่ประเทศจีนก็มีคนตายเป็นจำนวนมาก บางโรงเรียนรอดไม่มาก นี่ถ้าเกิดเหตุการณ์ในเมืองไทยตอนนี้ คงพูดอะไรไม่ออกเป็นแน่ ต้นปี เราก็สูญเสียบุคคลสำคัญ กลางปีจะสูญเสียอีก การสั่นสะเทือนระดับนั้น หากเกิดในกรุงเทพ คงจะไม่ค่อยมีคนสนใจกับความเดือดร้อนสักเท่าไหร่ เพราะผู้นำรัฐบาลมุ่งแต่เรื่องประโยชน์ส่วนตนมากกว่าความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน เผลอ ๆ เราอาจจะต้องเฟ้นหารัฐบาลชุดใหม่ก็ได้

เห็นการตายของชาวต่างประเทศที่ประสบอุบัติภัยทั้งสองครั้งนี้ ทำให้มองย้อนถึงความดีต่าง ๆ ที่ควรจะสร้างเอาไว้ เพื่อเป็นสิ่งดี ๆ ติดตัวเอาไว้บ้าง เพราะเกิดมาหากไม่สร้างคุณงามความดีให้กับตัว ครอบครัวและสังคมประเทศชาติ ก็คงไม่ค่อยเกิดประโยชน์มากนัก หากเรามองความตายที่เกิดขึ้น มาเตือนสติตัวเอง ทำความดี ตามหน้าที่ ความรับผิดชอบ ก็คงเท่ห์ดีไม่น้อย รัฐบาลบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ตายไป คุณงามความดีต่าง ๆ ก็มีไว้ให้ลูกหลานคนไทยได้ชื่นชม ได้กล่าวขวัญในแง่ดี ๆ หรือเราทำความดีให้กับคนรอบข้าง ครอบครัว ความสุขใจก็จะเกิด เมื่อทุกคนสร้างความดี สังคมก็จะอยู่เป็นสุข ประเทศชาติก็สงบสุข

ในยามเกิดอุบัติภัยในเดือนนี้ เราก็ได้เห็นน้ำใจคนไทยที่มิเคยเหือดหาย นั่นเป็นเพราะการสั่งสมอุปนิสัยกันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษของไทยเรา

เรื่องราวทั้งพม่าและจีนก็ยังไม่ทันหาย เมืองไทยก็เริ่มต้นกันเสียอีกแล้ว ชุมนุมประท้วงต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการประทะกัน จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่แน่ใจว่าจะจบลงอย่างไร หรือจะยืดเยื้อจนอาจจะเกิดปฏิวัติ หรือจะสูญเสียอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิด

น่าเศร้า ! เราเสียเงินกับการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ประมาณ 2,000 ล้าน ใช้จริง ๆ เพียงไม่กี่เดือน ในขณะที่ประชาชนเดือนร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า ของแพง ค่าน้ำมันแพง น้ำตาลแพง ข้าวแพง ค่าโดยสารแพง รัฐบาลของเราไม่ค่อยสนใจกับความเดือดร้อนของประชาชน มุ่งแต่แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเดียว แล้วนี่จะมาละเลงเงินอีก 2,000 ล้าน เพื่อหยั่งเสียงว่าจะแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ … ดูมัน ดูมันทำ….นี่หรือคนที่เขาเลือกมาเพื่อรับใช้ประชาชน

เงิน 2,000 ล้าน ถ้าเอามาแก้ไขวิกฤติของชาวบ้านตอนนี้ ก็คงเห็นเป็นรูปธรรมขึ้นมาบ้าง ยิ่งค่าแรงบางจังหวัด ขึ้นมาได้ 2 บาท ไม่เอาส่วนไหนคิด บางจังหวัดที่เป็นฐานเสียงของรัฐบาล ก็ขึ้นซะ 9 บาทไป แต่นี้จะเอามาละลายเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เงินก็เงินภาษีของพวกเรา แต่เขาเอามาทำเพื่อพวกตัวเอง

ความตายจากตัวอย่างที่ได้เห็นทั้งในพม่าและจีน กลุ่มรัฐบาลน่าจะสำเหนียกบ้างว่า ความตาย เป็นของแน่นอน น่าจะทำความดี ให้กับคนอื่น ๆ ในเมื่อตนมีโอกาสบ้าง ไม่ใช่แต่แสวงหาอำนาจ บารมี เงินทอง มุ่งแต่กอบโกยเงินทองไม่รู้จักพอ ได้เท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ สุดท้าย ตายไป แม้แต่เศษเงินที่เขาใส่ปาก ยังเอาไปไม่ได้เลย แถมตายไปมีแต่คนสาปแช่ง

เหตุการณ์ในเมืองไทยนับจากนี้ คนไทยอาจต้องมาฆ่ากันเอง ไม่รู้จบลงอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ เราทุกคนก็ต่างต้องรับผลกระทบที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่มากก็น้อย

พฤษภาปีนี้ มันเป็นเดือนแห่งความวิปโยคจริง ๆ ……(จบเอาดื้อ ๆ อย่างนี้หล่ะครับพี่น้อง…..)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


*