เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่ได้ไปธุระที่ไหน ก็เลยอยู่แต่ที่ห้อง ว่าง ๆ ก็เลยปรับแต่งธีมของเดิม ซึ่งเป็นของ WPDesigner ปรับแต่งให้มีความกว้างมากกว่าเดิม ทำให้สามารถใส่รูปขนาดใหญ่ได้ ในส่วนของ Footer นั้นก็ใส่ข้อความเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ลงไป รวมทั้งแสดงข้อความว่าเป็นธีมของใครอีกด้วย ซึ่งก่อนนั้นจะไม่มีให้เห็น ที่ไม่มีให้เห็นเพราะว่า ผู้พัฒนาธีมเขาไม่ได้ระบุเอาไว้ มีแต่ลิงก์เว็บผู้พัฒนาในส่วนของ Meta เท่านั้นเอง ทางเซอร์บิตไม่ได้ลบทิ้งแต่อย่างใด ซึ่งผู้พัฒนาคือ Small Potato หลังจากที่ได้ปรับแต่งของเขาเพิ่ม ก็เลยใส่ชื่อเว็บเจ้าของธีมไว้ในส่วน Footer ซะเลย
สิ่งที่ตั้งใจว่าจะเขียนบทความเกี่ยวกับการใช้งานของ TMPGEnc DVD Author 3 with DivX Authoring ก็เลยตั้งพับโครงการไป หลังจากที่ “กะว่าจะเขียน” มานานหลายสัปดาห์แล้ว ต้องขออภัยสำหรับท่านที่รอด้วย ถ้ามีเวลาแล้วจะรีบเขียนให้ได้อ่านกัน
ก่อนนั้นเริ่มลงมือจับภาพ รวมทั้งอ่านคู่มือเป็นไฟล์ .pdf อ่านไปอ่านมา โอ้ว…จอร์จ นี่มันหนังชีวิตนี่นา เรื่องราวต่าง ๆ มีเป็นจำนวนมากเลย การใช้งานมันซับซ้อน ก็เลยท้อไปเล็กน้อย ว่าจะเริ่มต้นก็ไม่ได้เริ่มสักที ปล่อยให้เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ไม่ได้อัพเดทเว็บสักทีมาหลายเดือนแล้ว
หลังจากที่เขียนบล็อกมันเล่น ๆ มาหลายครั้งหลายครา เก็บพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาหลายครั้ง แทนการเขียนบล็อกซะงั้น บางทีไม่รู้จะเขียนอะไรดี เก็บสิ่งดี ๆ ไว้ก็ดีเหมือนกัน เพราะพระบรมราโชวาทในช่วงนี้นั้น แต่ละครั้งสื่อความหมายต่าง ๆ ของความเป็นไปของคนในชาติ เหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นการเตือนสติทั้งผู้มีอำนาจ และประชาชน ชี้ทางสว่างของปัญหาภายในชาติได้เป็นอย่างดี
ถ้าจะพูดถึงพระบรมราโชวาทแล้ว ขอเอ่ยสิ่งที่สังเกตุมานานหลายปี นั่นก็คือนักการเมือง บุคคลเหล่านี้ น้อยคนนักที่จะเข้ามาเพื่อเสียสละเพื่อประชาชนหรือเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง คนเหล่านี้เมื่อมาบริหารประเทศ ก็มักจะได้มีโอกาสรับฟังพระบรมราโชวาท แต่เมื่อออกมาแล้ว ก็ลืมกันจนหมดว่า ได้ฟังอะไรมาบ้าง อะไรที่พระองค์ตรัสไว้เป็นแนวทางในการช่วยเหลือประชาชน พอบริหาร ก็ทำเพื่อ “พวกพ้องและตัวกูเอง” กันแทบทั้งสิ้น อะไรที่เป็นผลประโยชน์ต่อประเทศชาติมักมาทีหลังเรื่องส่วนตัว แทบจะไม่ค่อยได้น้อมนำพระบรมราโชวาทมาปฏิบัติกันเท่าใด ทำให้ย้อนไปนึกถึงสุภาษิตที่คนโบราณท่านเปรียบเปรยไว้ว่า “สีซอให้….ฟัง” มันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ประมาณนั้นเลย
เริ่มต้นก็เรื่อย ๆ เหมือนพูดคุยกันธรรมดา แต่พอตอนท้าย กลับเป็นเรื่องหนักสมองไปเสียนี่ คงเอาไว้แค่นี้แหล่ะครับ เดี๋ยวจะปวดหัวกันเปล่า ๆ