มาแล้ว…..เผาจริง

ช่วงนี้ ไม่ได้อัพเดทอะไรเป็นเรื่องเป็นราวบ่อยนัก ก็มีแต่พยายามเขียนการใช้งาน TMPGEnc DVD Author 3 with DivX Authoring หลังจากที่ว่าจะเขียนมาตั้งหลายเดือนที่ผ่าน ๆ มา

หลังจากที่เปลี่ยนเว็บมาในแบบบล็อกนี้ ก็ยังคงเห็นอะไรเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ กว่าเดิมนั่นคือ เขียนอะไรได้บ่อยขึ้น เขียนไปทีละเล็กละน้อย บ่นบ้างเป็นบางโอกาส ดีกว่าเงียบ ๆ ไปเลย อย่างคู่มือนี่ ผมก็หาปลั๊กอินมาเสริมกับบทความ ทำให้ดูบทความในเรื่องเดียวกันได้ง่ายขึ้น รวมทั้งก็จะพยายามทำวีดีโอมาให้ได้ดูกัน อย่างล่าสุดที่เขียนบทความไป ก็มีวีดีโอประกอบไปด้วย ซึ่งอาจจะไม่ค่อยงามอย่างมืออาชีพเขา แต่ก็ตั้งใจนะ (มันได้แค่นี้จริง ๆ )

การทำวีดีโอสอนนี้ ก็แล้วแต่จังหวะและโอกาสครับ เพราะไม่แน่ใจว่าจะทำได้บ่อย ๆ หรือไม่ ผู้ที่ใช้เน็ตความเร็ว 56K ที่ชมวีดีโอนี้ก็น่าเห็นใจไม่น้อยเหมือนกัน เพราะผมใช้ .FLV นิด ๆ หน่อย ๆ เป็นเมก.แล้วหล่ะครับ จริง ๆ ก็อยากทำเป็นแนววีดีโอเทรนนิ่งเหมือนกัน ก็ได้แต่คิดหล่ะครับ ไม่ค่อยมีเวลา หรือพูดไปพูดมา เดี๋ยวจะหาว่าผมเมาเอาก็ได้นะ เรื่องพื้นที่และแบนวิดธ์ผมไม่ห่วงครับ เพราะเยอะแยะ เข้าชมแบนวิดธ์วันละ 10 กิ๊ก ยังไม่มีปัญหาเลยครับ แต่…ปัจจุบันเข้าชมเว็บวันละ 50 คนยังแทบจะไม่ถึงเลยครับ…คิดแล้วก็อดขำไม่ได้

ส่วนเรื่องการแสดงความเห็นในแต่ละบทความที่ผมได้เขียนไปนั้น สามารถแสดงออกได้เลยครับ จะพูดคุยกันแสดงความเห็นเกี่ยวกับบทความ หรือสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับบทความที่ตนเองยังไม่เข้าใจ ก็สอบถามเข้ามาได้ครับ และจะได้เข้าใจกันมากขึ้นในบทความที่ผมเขียน เพราะรูปแบบเดิมนั้น อ่านได้เพียงอย่างเดียว

มาเข้าเรื่องตามหัวข้อกันดีกว่า เรื่องเผาจริง เศรษฐกิจในแบบเผาจริง เขาเปรียบเทียบเศรษฐกิจขาลง หรือในช่วงตกต่ำ กับการเผาศพ ซึ่งการเผาศพนั้นเขาจะมีแบบ เผาหลอก กับเผาจริง เผาหลอกก็อย่างเช่น ประชุมเพลิงเวลา 17.00 น. แต่จริง ๆ ก็เป็นเพียงวางดอกไม้จันทน์เท่านั้น ยังไม่ได้ทำการเผาศพจริง ๆ บางแห่งจะเผาศพจริง ๆ ก็ประมาณ 20.00 น. หรือไม่ ก็ 22.00 น. แล้วแต่งานแล้วแต่เจ้าภาพ

เศรษฐกิจในปีนี้หลายท่านว่าเป็นปีเผาจริงทางเศรษฐกิจ ปัจจัยหลาย ๆ อย่างต่างถาโถมกันเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งเรื่องน้ำมันที่เกิน $100 และยังไม่มีทีท่าว่าจะต่ำกว่า เรื่องรัฐบาลที่ยังเคลียร์ทาง เคลียร์ขวากหนามกันอยู่ ซึ่งดู ๆ แล้วเหมือนกับยังไม่ค่อยเดินหน้าเพื่อปากท้องของประชาชนกันอย่างแท้จริงนัก

และที่สำคัญที่สุด ก็คือราคาสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ขึ้นราคากันอย่างทั่วหน้าไปเยอะเลย น้ำมันพืช หมู และอื่น ๆ อีกหลาย ๆ รายการ ไวไว ห่อละ 10 ซองเมื่อไม่นานนี้ห่อละ 38 บาทตอนนี้ก็ขึ้นไปเป็น 48 บาท กาแฟพร้อมชง ห่อละ 87 ตอนนี้ก็ปาไป 108 บาท น้ำยาปรับผ้านุ่ม ราคา 11.50 บาทก็ขึ้นไปเป็น 15.50 บาท น่องไก่จากโลละ 49 บาท นี่ก็ปาไป 80-90 บาท ต้นทุนในการชีวิตเราเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ข้าวแกง อาหารตามสั่งนี่ก็ขึ้นราคากันตามสินค้าและต้นทุน แต่เขาจะขึ้นทีละ 5 บาท บางที่ราคาเท่าเดิม แต่อาหารน้อยลง ในขณะที่เงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำยังไม่ขึ้น ในส่วนของผู้ใช้แรงงานก็คงอยากให้ขึ้นค่าแรง แต่ในมุมของผู้ประกอบการ เศรษฐกิจที่สภาพไม่ค่อยคล่องนัก การขึ้นค่าแรงอาจจะมีผลกระทบไปด้วย นี่ยังไม่รวมข่าวที่ว่าจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ก็ไม่ทราบว่าจะมีผลการต่อการขึ้นราคาสินค้าด้วยหรือไม่ เพราะตอนนี้ก็ขึ้นไปกันมากแล้ว ถ้าขึ้นอีก เจอ 2 เด้งแน่ ๆ

ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ รายจ่ายเพิ่มขึ้น รายได้เท่าเดิม ก็ฝาก ๆ ด้วยนะครับ เรื่องการใช้จ่ายก็ระมัดระวังกันสักหน่อยนะครับ อะไรที่จำเป็นก็จ่ายไป แต่อันไหนที่ยังไม่จำเป็นก็หยุดเอาไว้ก่อนครับ ตอนนี้เก็บเงินสดไว้ในมือให้มากที่สุดเป็นการดีครับ การใช้จ่ายขอให้คุ้มค่าที่สุดครับ ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีอะไรน่าไว้ใจทั้งนั้น เราต้องพยายามพาตัวเราให้ฝ่าวิกฤติเหล่านี้ไปให้ได้

วิกฤติทางการเมืองที่เห็น ๆ กันอยู่ในตอนนี้มันเรื่องเด็ก ๆ แต่ภายหน้าอีก 5-6 ปีข้างหน้า มันอาจจะทำให้คุณดูเข็มขัดสั้นไปเลยก็เป็นได้ แต่มันจะเกิดอะไรขึ้น เอาปัจจุบันของเรากันก่อนดีกว่าครับ

สิ่งที่ผมพูดมานี้ผมถือว่าเรามาพูดคุยกันแบบพี่ ๆ น้อง ๆ นะครับ อย่าหาว่าผมสอนเลยครับ อีกอย่างสิ่งใดเป็นประโยชน์ก็เก็บเอาไปครับ สิ่งใดไม่เกิดประโยชน์ต่อท่านหรือไม่ถูกใจก็ลืม ๆ ไปเถอะครับ หากจะมีสิ่งใดที่เกิดประโยชน์ต่อท่านและนำไปใช้เกิดผลดีกับตัวท่านเอง ผมก็ขออนุโมทนาด้วยครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


*